วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

[แปลไทย] สัมภาษณ์ นิชคุณ 2PM นิตยสาร Z_ZIN ฉบับที่ 8 เดือนมิ.ย. 2012


ข้อมูลก่อนอ่านบทสัมภาษณ์: Z_ZIN คือ นิตยสารของ Zo Sunhee เธอคือสาวช่างภาพชื่อดังของประเทศเกาหลี ก่อนหน้านี้ เธอได้เคยร่วมงานกับ 2PM มาแล้วหลายครั้ง และผลงานชิ้นโดดเด่นที่สุดที่เธอได้เป็นช่างภาพให้กับ 2PM คือ ถ่ายแบบนิตยสาร W ฉบับเดือนกันยายน 2009 ถ่ายแบบอัลบัมภาพ Calvin Klein และถ่ายอัลบัม Don’t Stop Can’t Stop แฟนๆสามารถเห็นหน้าช่างภาพสาวมากความสามารถ Zo Sunhee คนนี้ได้ ในคลิปเบื้องหลังรายการ O'Live with Junsu, Taecyeon, Wooyoung 2010 

***บทกลอนและข้อคิดจาก นิชคุณ***

เพียงเมฆลม ทำให้รู้ ค่าความรัก
เพียงฝนสาด ช่วยประจักษ์ ค่าแห่งแสง
เพียงขาดน้ำ ช่วยนึกถึง ค่าฝนแรง
เพียงเจ็บแปลบ ทำให้ซึ้ง ค่าสุขใจ
เพียงแค่ความปวดร้าวพัดผ่านไป เราทุกคนก็จะสามารถรับรู้ถึงสิ่งล้ำค่า ที่เรียกว่า ความรัก…

ช่างน่าแปลกจริงๆเลย
ทำไมคนเราถึงเป็นเช่นนี้ ยามที่มีสิ่งใดอยู่ข้างตัวเรา
ทำไมเราถึงไม่ตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งนั้น จนกระทั่ง สุดท้ายสิ่งนั้นก็ไม่ได้อยู่ข้างเราแล้ว…
เราทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะรู้สึกขอบคุณสิ่งเล็กๆแต่เป็นสิ่งที่มีค่าในชีวิตเรา
ปล.ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป…

นิชคุณ

***บทสัมภาษณ์***

Z_ZIN: คุณคิดว่าอะไรที่จะกลายเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกแปลกใจ?

นิชคุณ: แปลกใจ นี่หมายถึงยังไงหรอครับ?

Z_ZIN: ก็แบบรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกจังนะ

นิชคุณ: เรื่องที่ผมคิดว่าแปลกหรอครับ? อืม… (หยุดคิด) เหมือนแบบบางทีมีบางเรื่องที่เราไม่เข้าใจเลย แบบนั้นได้มั้ยครับ?

Z_ZIN: ใช่แบบนั้นแหละ

นิชคุณ: ครับ

Z_ZIN: ว่ากันตามจริง คำถามที่เราสัมภาษณ์ยากนะคะเนี่ย

นิชคุณ: ใช่ครับ คือมีบางเรื่องที่ผมไม่ค่อยเข้าใจน่ะครับ! อืม… ผมจะอธิบายคำตอบยังไงดีล่ะ? คือจริงๆเลยนะครับผมรู้สึกแปลกๆและก็งงน่ะครับ เวลาที่คนเราคิดถึงและไปจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ไม่ใช่สิ่งสำคัญและไม่ใช่สิ่งจำเป็นครับ เช่นเวลามีคนดังหรือใครซักคนที่เกิดมีชื่อเสียงขึ้นมา…บางครั้ง ผมก็ไม่เข้าใจครับว่าทำไมคนเราต้องเอาแต่พูดว่า “ว้าว พวกเขาเยี่ยมไปเลย” ทั้งๆที่ทั้งผมและทุกคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำครับว่าทำไมคนนั้นถึงได้มีชื่อเสียงขึ้นมา (นิชคุณ พยายามจะสื่อว่าบางทีคำพูดของคนเราที่เอาแต่ชื่นชมใครซักคนที่มีชื่อเสียง ไม่สำคัญเท่ากับการมองให้ลึกและเชิดชูความพยายามของคนนั้นก่อนที่จะประสบความสำเร็จได้)

Z_ZIN: นั่นเป็นเรื่องที่คุณคิดว่ามันน่าแปลกหรอคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ เพราะผมไม่เข้าใจมันเลยครับ

Z_ZIN: แต่คุณก็เป็นคนดังไม่ใช่หรอคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ แต่ผมคิดอย่างนี้นะครับว่า…ผมเริ่มต้นได้ เพราะผมแค่เป็นคนโชคดีคนนึง ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถก้าวขึ้นมายืนในจุดนี้ได้ครับ

Z_ZIN: ใช่เลย ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ ฉันคิดว่าทุกคนสามารถเป็นเหมือนกับฉันได้

นิชคุณ: ถูกต้องครับ

Z_ZIN: แล้วคุณคิดว่า สำหรับ นิชคุณ ในทุกวันนี้ เวลามีคนชื่นชมถือว่าเป็นเรื่องที่แปลก? ไม่น่าใช่ อะไรแบบนี้มั้ย?

นิชคุณ: อ่า…ครับ ผมไม่คิดแบบนั้นนะครับ นับตั้งแต่วันที่ผมก้าวเข้ามาสู่เส้นทางสายนี้ ผมก็ฝึกฝนอย่างหนักและทำทุกอย่างให้ดีที่สุดครับ 

Z_ZIN: หลังจากมาที่เกาหลี อะไรเป็นสิ่งที่น่าแปลกที่สุดสำหรับนิชคุณคะ?

นิชคุณ: อืม…ลักษณะของคนเกาหลีล่ะมั้งครับ? เร่งรีบ เร่งรีบ เร่งรีบ เร่งรีบ…ทุกๆวัน ผมจะได้ยินแต่คำว่า เร็วๆหน่อย เร็วๆสิ มาคิดดูแล้ว ตอนผมมาแรกๆผมรีบเร่ง วิ่งวุ่นทำทุกอย่างรวดเร็วทุกวันมั้งครับเนี่ย?

Z_ZIN: วิ่งวุ่น?

นิชคุณ: ใช่ครับ ทำอะไรแบบเร็วๆทำทุกอย่างแบบเร่งรีบ ใช่เลยครับ! ผมเคยอยู่ที่อเมริกามาก่อน คนที่นั่นโดยเฉพาะ คนแคลิฟอร์เนีย จะพูดกันว่า “สบายๆ..รีแล็กซ์” แต่พอผมมาที่เกาหลี ทุกคนต่างทำอะไรกันอย่างเร่งรีบและพูดเสมอว่า ให้ทำนั่นเร็วๆ ทำนี่เร็วๆ…ตอนแรก ผมไม่เข้าใจเลยล่ะครับ

Z_ZIN: แล้วตอนนี้ล่ะคะ เป็นยังไงบ้าง? คุณปรับตัวได้รึยังคะ?

นิชคุณ: ตอนนี้ผมคิดว่า ผมกลายเป็นคนแบบนั้นไปแล้วล่ะครับ ขนาดเวลาผมทำงาน ผมยังต้องการความรวดเร็วเลยครับ…

Z_ZIN: ฉันเดาว่า นิชคุณ กลายเป็นคนที่พูดแบบนี้เหมือนกันแน่เลย “เร็วหน่อยครับ เร่งมือหน่อยครับ” 

นิชคุณ: ถูกต้องเลยครับ

Z_ZIN: ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

นิชคุณ: ทุกวันนี้นะครับ ผมไม่ได้ทำอะไรแบบชิลๆเลยครับ แต่ทำแบบรวดเร็ว

Z_ZIN: ใช่เลยค่ะ ฉันก็ทำทุกอย่างแบบรวดเร็วเหมือนกัน ไม่ว่าจะทำอะไร ทำให้เร็ว ทำให้ดี นั่นคือสิ่งสำคัญค่ะ

นิชคุณ: ถูกต้องเลยครับ

Z_ZIN: จริงๆฉันเคยอยู่อเมริกาประมาณ 8 เดือนนะคะ ตอนนั้น ฉันคิดว่าตัวเองแทบจะเป็นบ้าเลยค่ะ เพราะทุกอย่างดูช้าไปหมดเลย

นิชคุณ: ฮี่ๆๆ

Z_ZIN: ที่นั่นงานชิ้นนึงใช้เวลาทำกันทั้งวัน ฉันคิดว่านั่นเป็นการทำให้เสียเวลาไปเปล่าๆนะ ที่นี่เพียงแค่คุณไปถึงพวกเขาก็ลงมือทำงานกันทันทีเลย

นิชคุณ: ใช่เลยครับ เป็นแบบนั้นจริงๆครับ

Z_ZIN: พอคุณก้าวมามีชื่อเสียงในฐานะสมาชิกไอดอลชื่อดัง 2PM นั่นคงทำให้คุณรู้สึกไม่สะดวกใจในการทำอะไรในบางทีนะคะ

นิชคุณ: ใช่ครับ ผมเคยมีความรู้สึกแบบนั้นครับ เพราะผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยครับว่า ผมที่เป็นคนต่างชาติจะกลายมาเป็นคนมีชื่อเสียง และได้รับความสนใจ ความรักมากมายขนาดนี้

Z_ZIN: ตอนคุณมาที่นี่แรกๆ คุณเคยคิดกับตัวเองมั้ยคะว่า “ฉันจะต้องเป็นคนดัง” หรือ “ฉันจะต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ” อะไรแบบนี้น่ะค่ะ?

นิชคุณ: ไม่ครับ ตอนที่ผมก้าวเข้ามา เริ่มทำทุกอย่าง ผมไม่เคยมีความคิดอะไรแบบนั้นเลยนะครับ

Z_ZIN: แล้วคุณมาอยู่ตรงจุดนี้ได้ยังไงหรอคะ?

นิชคุณ: อืม…ผมไม่เคยมีความฝันเลยนะครับ ว่าผมจะมาเป็นนักร้อง

Z_ZIN: ถ้าอย่างนั้น อะไรคือแรงจูงใจของคุณหรอคะที่ทำให้คุณคิดว่าจะมาเป็นนักร้อง?

นิชคุณ: ตอนนั้น เพียงเพราะคำของคุณพ่อ คุณแม่ที่บอกให้ผมลองพยายามดูครับ

Z_ZIN: อ่า เพราะครอบครัวใช่มั้ยคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ ท่านบอกผมว่า โอกาสแบบนี้ไม่ได้มาหาเราทุกวันนะ

Z_ZIN: แล้วตอนที่โอกาสนั้นเข้ามาหาคุณ นั่นเป็นโอกาสที่คุณออกไปตามหา? หรือเป็นโอกาสที่เดินเข้ามาหาคุณคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ ตอนนั้นคืออาจเรียกได้ว่าโอกาสเดินเข้ามานะครับ ผมได้ไปที่คอนเสิร์ตหนึ่งและมีใครบางคนเดินเข้ามาหาผม บอกให้ผมลองไปออดิชัน ตอนแรกผมบอกปฏิเสธไปครับ

Z_ZIN: ใครเป็นคนแนะนำคุณให้ไปออดิชันหรอคะ?

นิชคุณ: เป็นเพียงทีมงานที่หาเด็กฝึกใหม่มั้งครับ…คือตอนนั้นผมไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องร้องเพลงหรือการเต้นเลยครับ

Z_ZIN: คุณคิดว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้พวกเขาเข้ามาบอกคุณให้ไปออดิชันหรอคะ?

นิชคุณ: บางทีอาจเป็นเพราะหน้าตาผมมั้งครับ

Z_ZIN: ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

นิชคุณ: ไม่รู้สิครับ? ผมหมายถึง ผมไม่ใช่คนเกาหลี พูดเกาหลีก็ไม่ได้ เต้นอะไรก็ไม่เป็น ผมเลยบอกปฏิเสธไปน่ะครับเพราะผมไม่มีความสามารถพวกนี้เลย แต่เขาก็ยังคอยเพียรโทรหาผม ครั้งหนึ่งพวกเขานัดให้ผมไปพบครับ เขาบอกผมว่าให้มาเจอและนั่งคุยกันที่ ร้านสตาร์บัค และผมก็ไป แต่พอผมไปถึง พวกเขาก็เซ็ทกล้อง เซ็ทอะไรไว้ทุกอย่างหมดแล้วและบอกผมว่า ให้ลองเต้นหน่อย ต่อหน้าคนเยอะแยะเลยนะครับ ตอนนั้นที่นั่นคนเยอะจริงๆครับ

Z_ZIN: แล้ว คุณได้เต้นมั้ยคะ?

นิชคุณ: ครับ ผมเต้น

Z_ZIN: พวกเขาดูเหมือนไม่ได้มีการเตรียมการล่วงหน้าไว้มากนัก ฉันเลยคิดว่าคุณคงไม่เต้น

นิชคุณ: แต่ผมเต้นนี่สิครับ

Z_ZIN: ทำไมตอนนั้นคุณถึงตัดสินใจทำแบบนั้นล่ะคะ?

นิชคุณ: ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ






Z_ZIN: คุณตัดสินใจทำแบบนั้นทั้งๆที่ไม่ต้องทำก็ได้ ฉันคิดว่า นั่นคงเป็นโชคชะตาแน่นอนค่ะ

นิชคุณ: ผมก็คิดอย่างนั้นครับ

Z_ZIN: แล้วตอนนั้น ความคิดของคุณเป็นยังไงหรอคะ? คือตอนแรกคุณจะเป็นคนที่ไม่ชอบทำอะไรที่ไม่ได้มีการวางแผนไว้ก่อนนี่นา ใช่มั้ยคะ?

นิชคุณ: อืม ครับ…ผมต้องเปลี่ยนแนวคิดเยอะนิดหน่อยนะครับ

Z_ZIN: เปลี่ยนหลังจากนั้น…

นิชคุณ: ใช่ครับ จากเหตุการณ์นั้นผมก็เริ่มมองความคิดตัวเองในอีกมุมหนึ่งครับ

Z_ZIN: แต่ที่คุณทำแบบนั้น มันเยี่ยมจริงๆนะคะ

นิชคุณ: ทำไมผมถึงตัดสินใจทำแบบนั้น ผมไม่รู้จริงๆครับ ตอนที่ผมเจอพี่จินยอง พี่เขาพูดว่า คนนี้เนี่ยนะ? พี่จินยองพูดว่า ทำไมทีมงานถึงพาผมเข้าไปออดิชันและตอนแรกก็จะบอกปฏิเสธครับ แต่คนที่บอกให้ผมลองมาออดิชันก็พูดขอร้องพี่จินยองครับ ขอให้เชื่อในตัวผมครับ

Z_ZIN: ฉันแอบอยากรู้นะเนี่ย ว่าคนนั้นคือใครกันนะ ทุกวันนี้คุณชอบงานที่คุณทำอยู่มั้ยคะ? หรือคุณคิดว่า ถ้ามีชีวิตปกติแบบคนทั่วไปคงจะดีกว่านี้นะ

นิชคุณ: อ่า ผมเคยคิดแบบนั้นบางครั้งเหมือนกันครับ ผมเคยคิดว่าถ้าทุกวันนี้เราเป็นคนธรรมดาล่ะ…ถ้าเราเป็นแค่ นิชคุณ ล่ะ…นั่นเป็นชื่อจริงๆของผมนะครับ (ออกเสียงว่า นิช-ชะ-คุณ)

Z_ZIN: ชื่อนั้น แปลว่าอะไรหรอคะ?

นิชคุณ: แค่ชื่อเฉยๆน่ะครับ คิคิ จริงๆชื่อเต็มของผมคือ “นิชคุณ บัค หรเวชกุล”

Z_ZIN: ว้าว ยากจังค่ะ ฉันเคยได้ยินมาว่า “นิชคุณ คือ เจ้าชายเมืองไทย”

นิชคุณ: หืม อย่างนั้นหรอครับ?

Z_ZIN: อืม คุณมีเชื้อพระวงศ์มั้ยคะ?

นิชคุณ: ไม่ใช่แน่นอนครับ ฮ่าๆ

Z_ZIN: ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

นิชคุณ: ถ้าผมมีเชื้อพระวงศ์ ผมคงไม่มาทำอะไรแบบนี้หรอกครับ ฮ่าๆ

Z_ZIN: ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ใช่เลยค่ะ แล้วถ้าสมมติคุณมาจากครอบที่มีเชื้อสายชาววัง คุณจะไม่ทำแบบนี้หรอคะ? คุณอาจทำไปเพราะความสนุกเฉยๆก็ได้นี่คะ

นิชคุณ: อืม ผมคงไม่ทำเพราะความสนุกหรอกครับ แต่ผมจะเหมือนประมาณว่า…ถ้านั่นเป็นสิ่งที่ผมอยากทำ ผมก็จะทำน่ะครับ ถ้าคุณกลายมาเป็นคนดัง คุณต้องใส่ใจในเรื่องภาพลักษณ์ของคุณ อาจเกิดความรู้สึกท้อแท้ในบางครั้งและที่ตรงนี้ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นการตีกรอบให้ตัวคุณว่า สิ่งนี้ห้ามทำนะ แต่ตอนนี้ เรื่องจริงที่อยู่ตรงหน้าคือ ผมคือคนที่ทุกคนรู้จัก และ ผมคือ นิชคุณ ครับ ผมคิดเสมอว่า ผมต้องทำงานให้หนัก ถ้าผมทำอย่างนั้น วันข้างหน้าของผมก็จะเป็นวันที่ดีครับ

Z_ZIN: นิชคุณ เกิดที่เมืองไทยรึเปล่าคะ?

นิชคุณ: ผมเกิดที่อเมริกาครับ

Z_ZIN: คุณพ่อคุณแม่ของนิชคุณอยู่ที่อเมริกาก่อนที่คุณจะเกิดหรอคะ? ท่านตั้งท้องคุณที่นั่นหรอ?

นิชคุณ: ใช่ครับ ท่านทั้งสองอยู่ที่อเมริกาประมาณ 10 ปีครับ

Z_ZIN: และจากนั้นท่านก็ให้กำเนิด นิชคุณ หนุ่มตาใสคนนี้มาใช่มั้ยคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ พี่ชายคนโตกับน้องสาวคนรองของผมเกิดที่อเมริกาเหมือนกันครับ แต่น้องสาวคนสุดท้องเกิดที่เมืองไทย

Z_ZIN: ตอนนี้ คุณพ่อคุณแม่อยู่ที่เมืองไทยหรอคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ ท่านอยู่ที่เมืองไทย

Z_ZIN: อ้อ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ถ้าคุณเกิดที่อเมริกา แล้วอย่างนี้คุณพูดไทยได้คล่องมั้ยคะ? เวลาอยู่บ้าน คุณพูดภาษาไทยรึเปล่าคะ?

นิชคุณ: หลังจากคุณแม่คลอดผม เราก็อยู่ที่นั่นต่อกันอีก 2 ปีครับ

Z_ZIN: โอ้ คุณอยู่ที่อเมริกาต่อ 2 ปี จากนั้นก็กลับมาที่เมืองไทยสินะคะ

นิชคุณ: ใช่ครับ แล้วต่อจากนั้น ผมก็ไปอเมริกาอีกครั้ง เพื่อเรียนน่ะครับ ตอนนั้นภาษาอังกฤษผมแย่มาก ผมแย่มากๆจริงๆครับ ตอนแรกคุณแม่ส่งผมไปอยู่โรงเรียนประจำที่นิวซีแลนด์ก่อน ผมอยู่ที่นั่น 2 ปี ผมเรียนภาษาอังกฤษแบบจริงจังที่นั่นครับ จากนั้นก็เดินทางมาเรียนมัธยมที่อเมริกาครับ

Z_ZIN: นิชคุณ อยู่อเมริกานานเท่าไหร่คะ?

นิชคุณ: ตั้งแต่เรียนมัธยม จนเดินทางมาเกาหลีเลยครับ

Z_ZIN: หลังจากที่ฉันตัดสินใจเลือก นิชคุณ มาเป็นแบบหน้าปก Z_ZIN ให้ ฉันอยากทำให้หน้าปกที่มี นิชคุณ สามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ เรื่องของความแปลกใหม่ในความรู้สึกแรกเริ่ม ทั้งสถานที่ที่ต้องมาอยู่ครั้งแรก การเป็นคนแปลกหน้ากับผู้คนในแรกพบ นั่นคือเหตุผลฉันเลือกธีม “คนแปลกหน้าหรือไม่” ว่าแต่ว่า คุณมาอยู่ที่เกาหลีนานเท่าไหร่แล้วคะ?

Z_ZIN: มาพูดเรื่องอาหารกันมั่งดีกว่า อาหารเกาหลีเป็นยังไงบ้างคะ?

นิชคุณ: อร่อยมากครับ ยกเว้น โพชินทัง นะครับ (보신탕 = ซุปเนื้อสุนัข) นอกนั้น เกือบทุกอย่างที่ผมทานอร่อยหมดเลยครับ!

Z_ZIN: อร่อยมากเลยใช่มั้ยคะ? นิชคุณ ทานเผ็ดได้มั้ยคะเนี่ย?

นิชคุณ: ได้นะครับ! ผมทานเผ็ดได้ครับ จริงๆอาหารไทยมีรสเผ็ดซะส่วนใหญ่นะครับ

Z_ZIN: โอ้ หรอคะ อาหารไทยรสเผ็ดหรอคะ?

นิชคุณ: เผ็ดเลยครับ

Z_ZIN: ในช่วงเวลา 6 ปีที่คุณอยู่ที่เกาหลี อะไรที่คุณรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่คุณสะดวกใจที่สุดคะ? พูดง่ายๆก็คือ อะไรที่ใช่และ ‘ไม่ใช่’ สำหรับคุณ? อะไรที่คุณรู้สึกคุ้นเคย…

นิชคุณ: สิ่งที่ผมคุ้นเคยหรอครับ?

Z_ZIN: แบบว่า อะไรที่เคยทำให้คุณรู้สึก “แปลก” ในตอนแรก แต่ตอนนี้คุณสามารถเข้าใจและสะดวกใจกับสิ่งนั้นแล้วน่ะค่ะ

นิชคุณ: อืมม…ครับ จริงๆแล้ว สำหรับผมก็ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้รู้สึก “แปลก” หรือไม่สะดวกใจขนาดนั้นหรอกนะครับ

Z_ZIN: ไม่มีหรอคะ?

นิชคุณ: ครับ ไม่มีนะ

Z_ZIN: อืม เพราะว่าคุณเป็นคนเอเชียและยังเคยไปอยู่ต่างประเทศมานานด้วย พอมาอยู่ที่นี่คุณก็เลยสามารถปรับตัวได้ดีนะคะ…

นิชคุณ: ใช่ครับ ที่เมืองไทยบางอย่างก็คล้ายๆกับที่นี่ครับ

Z_ZIN: นิชคุณ ต้องรู้สึกว่าตัวเองเป็น ‘บุคคลรอบโลก’ เลยนะคะเนี่ย

นิชคุณ: ฮี่ๆๆๆ รอบโลกเลยครับ

Z_ZIN: ใช่เลยค่ะ ฉันคิดอย่างนั้น เพราะว่า คุณอยู่ ’ทุกมุมโลก’ เลยล่ะค่ะ คิคิ

นิชคุณ: ตอนนี้ เกาหลี กลายเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งของผมแล้วล่ะครับ

Z_ZIN: อื้มมม ใช่เลยค่ะ แต่เพราะนิชคุณไม่ได้เป็นคนเกาหลี 100% นั่นเป็นเหตุผลที่เราคิดว่าธีมนี้เหมาะกับคุณนะคะ คุณต้องมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างจากคนเกาหลี นั่นเป็นสิ่งที่เราคิดกันค่ะ

นิชคุณ: อื้มมมม ก็มีบางอย่างนะครับ ต้องมีบ้างน่ะครับ

Z_ZIN: ใช่ค่ะ ฉันก็คิดอย่างนั้น

นิชคุณ: ก็มีบ้างนิดหน่อยครับ แต่ไม่ใช่เรื่องหนักอะไรนะครับ…อืม อย่างเช่น เวลาที่ผมกับเพื่อนๆในวงต้องถ่ายทำรายการอะไรสักอย่าง เราจะเล่นกันอย่างสนุกสนานไปรอบๆ และเพื่อนๆก็จะมองหาเกมส์ที่เด็กๆเล่นกัน ช่วยกันเลือกว่าเอาอันนี้หรืออันนั้นดีนะ แต่ผมจะไม่รู้น่ะครับเพราะผมไม่รู้ว่าเด็กๆที่นี่เล่นเกมส์แบบไหนกัน ผมจะรู้สึกตอนนั้นนิดหน่อยว่าตัวเองเป็นคนต่างชาติ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ

Z_ZIN: อ้อค่ะ ฉันเข้าใจเลยค่ะ

นิชคุณ: ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็จะถามเพื่อนๆครับว่า “อันนี้เกมส์อะไรหรอ” “เล่นยังไงอ่ะ” แบบนี้ครับ

Z_ZIN: แล้วเวลาที่คุณกับเพื่อนๆในวงกำลังคุยกัน เพื่อนๆมีไม่เข้าใจที่นิชคุณสื่อสารบ้างมั้ยคะ?

นิชคุณ: ก็แทบไม่มีนะครับ

Z_ZIN: สำเนียงภาษาเกาหลีของคุณดีมั้ยคะ?

นิชคุณ: ผมก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันน่ะครับ

Z_ZIN: ดูเหมือนว่าคุณต้องเรียนภาษาแบบคอร์สเร่งรัดเลยนะคะเนี่ย

นิชคุณ: ไม่ว่าผมต้องเรียนแบบเร่งขนาดไหน แต่ถ้านั่นจะเป็นผลดีกับสิ่งที่ผมต้องทำ ผมก็จะพยายามแน่นอนครับ

Z_ZIN: นิชคุณ ต้องเรียนภาษาหนักมากมั้ยคะ?

นิชคุณ: ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ




Z_ZIN: ฉันว่าบางที นิชคุณ อาจซึบซัมสำเนียงที่เป็นธรรมชาติเวลาอยู่กับเพื่อนๆในวงแน่เลยค่ะ รึเปล่าคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ เพราะผมไม่มีเวลาให้เลือกมากนักน่ะครับ แต่ผมยังคงต้องเรียนรู้ในทุกๆด้าน

Z_ZIN: จริงแล้วๆคุณไม่ต้องพยายามเรียนหลักสูตรมากก็ได้นี่คะ? เพราะสำเนียงการพูดของคุณตอนนี้เป็นธรรมชาตินะคะ

นิชคุณ: ผมต้องทำงานครับ ผมจะตั้งใจทำงานให้หนักครับ ฮ่าๆ คุณก็รู้นี่ครับ บางทีเราไม่มีทางเลือกมาก แต่เพราะเราต้องทำงานเยอะน่ะครับ และอีกอย่าง เพราะว่าก่อนที่พวกเราจะเดบิวต์ผมเคยเป็นพิธีกรในรายการ <ยาชิมมันมัน 2> ครับ

Z_ZIN: คุณเคยเป็นพิธีกรหรอคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ ผมเคยเป็นพิธีกรผมไม่ได้พูดอะไรเลยนะครับ แต่ผมเป็นพิธีกร ฮ่าๆ

Z_ZIN: จริงหรอคะเนี่ย? ฉันนึกไม่ออกจริงๆนะคะเนี่ย

นิชคุณ: นั่นแหละครับ คิคิ

Z_ZIN: แล้วคุณมาเป็นพิธีกรได้ยังไงคะ ทั้งๆที่ตอนนั้น คุณพูดภาษาเกาหลีไม่ได้เลย?

นิชคุณ: ตอนนั้น จริงๆมีคนมารวมกันประมาณ 10 คนน่ะครับ ดูเหมือนจะเป็นการออดิชันอะไรซักอย่างหนึ่ง ในระหว่างการพูดคุย พี่สาวที่เป็นผู้กำกับก็กำลังพยายามหาใครสักคนที่มีคาแรกเตอร์ตามที่เขาต้องการ ผมคิดไม่ออกจริงๆว่าทำไมผมถึงไปที่นั่น จากนั้น ตอนที่เขาเข้ามาคุย ก็มีตอนหนึ่งมีเสียงดังขึ้นมาว่า “โอ้? นิชคุณพูดเกาหลีออกมานิดนึงด้วย? โอเคเลยนะ ถ้าอีกหน่อยเขารู้ภาษาเกาหลีมากกว่านี้”

Z_ZIN: พวกเขาต้องคิดแน่เลยค่ะว่า คุณจะต้องพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน

นิชคุณ: ใช่ครับ ตอนนั้น ผมก็คิดว่าน่าสนุก น่าลองดูเหมือนกันนะ ผมจึงตัดสินใจทำครับ…แต่ถึงผมอยากทำ แต่ก็ต้องยอมรับเลยครับว่า ตอนนั้นผมทำไม่ได้จริงๆ เพราะว่าทุกคนเก่งกันมากเลยครับ

Z_ZIN: ใช่ พวกเขามีแต่คนเก่งและก็โตกันแล้วจริงๆนั่นแหละค่ะ (ในรายการ ยาชิมมันมัน)

นิชคุณ: นั่นแหละครับ…(ถอนหายใจนิดนึง)

Z_ZIN: ในขณะที่คุณกำลังพูดอะไรบางอย่าง พวกเขาต้องเปลี่ยนเรื่องคุยเลยรึเปล่าคะ?

นิชคุณ: แบบนั้นเลยครับ! รายการออกอากาศทุกสัปดาห์เป็นเวลา 6 เดือน ตอนนั้นเป็นะไรที่ทำให้ผมท้อและรู้สึกเครียดจริงๆครับ

Z_ZIN: อื้มม…นานเหมือนกันนะคะนั่น แต่ฉันจำไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะคะ แฮ่ๆๆ

นิชคุณ: ไม่เป็นไรเลยครับ ผมเองไม่อยากนึกถึงเหมือนกันครับ เป็นเรื่องที่เครียดจริงๆนะครับ ตอนนั้น ผมขอโทษพี่โปรดิวเซอร์แบบยกใหญ่เลยล่ะครับ

Z_ZIN: ฉันขอถามได้มั้ยคะ ว่าคุณคิดว่าทำไมโปรดิวเซอร์ถึงให้คุณมาร่วมในรายการล่ะคะ?

นิชคุณ: ผมคิดว่า เขาเลือกผมเพราะไม่มีตัวเลือกในตอนนั้นมั้งครับ

Z_ZIN: ไม่น่าใช่นะคะ เพราะถ้าคุณยังร่วมในรายการต่อ และยังคงพูดเกาหลีได้ไม่คล่องนัก คนๆนั้นก็สามารถที่จะให้คุณออกได้นี่คะ

นิชคุณ: นั่นแหละครับ เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงออกจากพิธีกร <ในรายการ ยาชิมมันมัน> และมาเป็นแขกรับเชิญในรายการ <สตาร์คิงส์> แทน

Z_ZIN: อ่าหห์…เข้าใจแล้วค่ะ

นิชคุณ: ในรายการ <สตาร์คิงส์> อย่างน้อย ผมก็มีโอกาสได้แสดงออกทางสีหน้าแล้วก็มีบางช่วงที่ใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายน่ะครับ และผมก็เริ่มมั่นใจในตัวเองมากขึ้นจากรายการนี้ครับ ตอนแรกผมคิดกับตัวเองว่า “อ่าหห์~ เราต้องมีปัญหากับรายการโชว์แน่เลย” แบบนั้นน่ะครับ

Z_ZIN: คุณคิดว่า คุณต้องใช้ความพยายามมากเท่าไหร่คะจนกว่าที่คุณจะรู้สึกว่ามั่นใจในตนเอง?

นิชคุณ: ความมั่นใจ (ในตัวเอง) น่ะหรอครับ? นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคนเรามากเลยนะครับ แต่ผมคิดว่าผมยังมีไม่มากพอ ผมต้องมั่นใจมากกว่านี้ครับ

Z_ZIN: แต่ดูเหมือนคุณไม่ใช่คนที่ไม่มั่นใจเลยนะคะ

นิชคุณ: จริงๆครับ ผมยังขาดอยู่เยอะเลยครับ

Z_ZIN: ฉันไม่รู้สึกแบบนั้นเลยค่ะ ผ่านมานานเท่าไหร่แล้วนะคะ ที่เราเคยร่วมงานกันตอนถ่าย Calvin Klein? 2 ปีเห็นจะได้มั้งคะ?

นิชคุณ: เกือบ 3 ปีแล้วมั้งครับ?

Z_ZIN: น่าจะประมาณ 3 ปีนะคะ ถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างตอนนั้นกับตอนนี้ นิชคุณ ดูแตกต่างจริงๆนะคะ ดูเหมือนว่าทุกอย่างของคุณดีขึ้นมากเลยล่ะค่ะ

นิชคุณ: ผมคิดว่า เป็นความเคยชินของผมนะครับ ที่ต้องทำทุกอย่างให้ดีขึ้น แต่ผมก็ยังคงขาดความมั่นใจ (ในตัวเอง) อยู่นะครับ ผมคิดเสมอเลยนะครับว่า ผมยังทำได้ไม่ดีพอ

Z_ZIN: ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะคะ? คุณทำออกมาดีนะคะ…คุณพัฒนาขึ้นมากถ้าเทียบกับการถ่ายแบบครั้งแรก

นิชคุณ: ผมคิดอย่างนั้นกับตัวเอง เพราะว่าผมอยากพัฒนามากกว่านี้ครับ ผมยากทำให้ดีกว่านี้

Z_ZIN: คุณพยายามอย่างหนัก เพราะว่าคุณอยากทำทุกอย่างให้ดีกว่านี้หรอคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ นั่นเป็นสิ่งที่ผมเชื่อและคิดกับตัวเอง และคำพูดที่ว่า “อ่าหห์ ทำไมฉันทำเรื่องนี้ได้ไม่ดีเลยนะ?” นั่นคือสิ่งที่ผมบอกกับตัวเองครับ

Z_ZIN: สำหรับฉันนะคะ ฉันคิดว่า การที่คุณคิดอะไรในทางที่ดีแบบนี้ นั่นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนถ่อมตัวมากเลยค่ะ คนๆหนึ่งที่ถึงแม้ว่าโอกาสที่เข้ามาจะมีแต่สูงขึ้นๆ แต่คนๆนั้นก็ยังคงถ่อมตัว นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเลยค่ะ และดียิ่งขึ้นเมื่อคุณมีทั้งความถ่อมตัวและความมั่นใจแบบที่คุณเป็นเช่นนี้

นิชคุณ: แต่ผมยังคงขาดความมั่นใจอยู่นะครับ

Z_ZIN: คุณต้องการความมั่นใจมากกว่านี้หรอคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ ผมอยากที่จะเชื่อมั่นในตัวเองมากกว่านี้ครับ ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมต้องขึ้นแสดงบนเวที แต่ผมก็ยังคงพร่ำเตือนกับตัวเองเสมอครับว่า ‘ฉันจะทำพลาดไม่ได้นะ’ ยังวิตกกังวลอยู่เลยนะครับ

Z_ZIN: ยังเป็นแบบนั้นเลยหรอคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ผมถึงไม่สามารถให้ตัวเองได้ 100% ผมยังคงให้ตัวเองกลับไปกลับมา อยู่ที่ 70~80% ครับ ผมยังให้ตัวเอง 100% ไม่ได้ครับ

Z_ZIN: นั่นมันน่าแปลกใจนะคะ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะคะ?

นิชคุณ: ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ…ผมคิดว่า อาจเป็นเพราะผมไม่ต้องการที่จะทำพลาดนะครับ

Z_ZIN: ที่คุณคิดแบบนั้น เพราะคุณคือคนนึงที่ยึดมั่นเรื่องการทำทุกอย่างให้ออกมาสมบูรณ์แบบรึเปล่าคะ?

นิชคุณ: ครับ ผมคิดอย่างนั้นนะครับ

Z_ZIN: อ่าหห์ ยากจังเลยนะคะ ฉันเข้าใจแล้วล่ะค่ะว่า ที่คุณยังคงเป็นกังวลเพราะว่าคุณไม่อยากทำผิดพลาด แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับความมั่นใจเลยนะคะ

นิชคุณ: เดี๋ยวผมอธิบายให้ฟังนะครับ คือ ความมั่นใจของผมจะลดน้อยลงทันที [เมื่อ] ผมอยากจะลองทำบางอย่างให้มากขึ้น [ใจที่กังวลของผมก็จะคิดว่า] ‘อยากทำอ่ะทำได้ แต่ฉันต้องไม่ทำพลาดนะ’ นั่นล่ะครับ พอใจที่กังวลคิดแบบนั้น ผมก็ไม่มีความมั่นใจที่จะทำสิ่งนั้นเลยครับ

Z_ZIN: แล้วคุณพยายามลืมคำพูดเหล่านั้นมั้ยคะ?

นิชคุณ: ครับ ผมพยายามไม่เอาคำพูดเหล่านั้นมาบั่นทอนจิตใจผม ผมเริ่มคิดถึงสิ่งนั้นใหม่อีกครั้งว่า “ถ้าเราทำแบบนี้ มันน่าจะเจ๋งดีนะ” “ทุกคนจะชอบมั้ยนะ?” แบบนี้ครับ

Z_ZIN: นิชคุณ กรุ๊ปเลือดอะไรคะเนี่ย?

นิชคุณ: กรุ๊ป O ครับ

Z_ZIN: แม้ว่าคุณจะเลือดกรุ๊ป O คุณก็ยัง กังวลแบบนี้หรอคะเนี่ย~? (ปกติคนกรุ๊ป O ไม่ใช่คนที่ขี้กังวลที่สุด)

นิชคุณ: ผมว่า ผมคงเป็นคนกรุ๊ป O ที่แตกต่างมั้งครับ

Z_ZIN: แต่คนกรุ๊ป O เรียกได้ว่ามีเอกลักษณ์ของคนทุกกรุ๊ปเลยนะคะ

นิชคุณ: นั่นแหละครับ ใช่เลย! ฮ่าๆ

Z_ZIN: ฉันเคยเห็นมาหลายคนแล้วนะคะ ที่บางคนเลือดกรุ๊ป O แต่ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนกรุ๊ป O แต่ดันไปเหมือนคนกรุ๊ป A ซะมากกว่า ไม่ว่าจะ O เหมือน B หรือ O เหมือน AB นี่ก็ทำให้เราได้เห็นอีกด้านหนึ่งของ นิชคุณ นะคะ

นิชคุณ: ครับ นั่นเหมือนกันเยอะเลยล่ะครับ…

Z_ZIN: คุณวางแผนเอาไว้ว่าคุณอยากจะทำกิจกรรมที่เกาหลีนานเท่าไหร่คะ? ฉันหมายถึงคุณพอจะเล่าสิ่งที่ตั้งใจจะทำในอนาคตได้มั้ยคะ…

นิชคุณ: ผมจะยังอยู่ที่นี่ต่อไปเรื่อยๆครับ [ทำงานอยู่ที่เกาหลี]

Z_ZIN: จนกว่าคุณจะอายุ 100 ปี เลยดีมั้ยคะ? ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

นิชคุณ: ถึงแม้ว่าผมจะแต่งงานแล้ว ผมก็จะอยู่ที่นี่ต่อไปครับ!

Z_ZIN: คุณอยากลองงานแสดงดวยมั้ยคะ?

นิชคุณ: ผมอยากเป็นนักแสดงด้วยครับ แต่ปีนึง คงรับได้แค่เรื่องเดียวแน่เลย

Z_ZIN: ในขณะที่เราถ่ายแบบกันวันนี้ ฉันว่า นิชคุณ เป็นนักแสดงที่ดีได้นะคะ เวลาฉันธิบายอะไร ว่าคุณควรทำยังไง คุณเข้าใจได้อย่างรวดเร็วเลยค่ะ

นิชคุณ: ฮ่าๆๆ

Z_ZIN: จริงนะคะ หลายครั้งที่นักแสดงชาวเกาหลีไม่สามารถที่จะแสดงออกทางสีหน้าได้ดี ถึงแม้ว่าเขาจะเข้าใจว่าตัวละครตัวนี้ต้องการอารมณ์แบบไหนก็ตาม แต่พอฉันเห็น นิชคุณ แสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้าเท่าที่คุณเข้าใจ ฉันเลยรู้เลยว่า นิชคุณ เป็นนักแสดงที่ดีได้แน่นอนค่ะ

นิชคุณ: แต่เรื่องภาษาก็ยากนะครับ เวลาผมพูดภาษาไทย ผมยังติดขัดอยู่เหมือนกัน แถมพูดเกาหลีก็ยังไม่คล่องอีก และพูดอังกฤษก็ไม่ได้ดีเลิศอีกนะครับㅠㅠㅠㅠ

Z_ZIN: คุณฝึกฝนได้ค่ะ

นิชคุณ: นั่นสินะครับ ผมสนใจด้านการแสดงมากเลยครับ

Z_ZIN: ฉันพอดูออกค่ะ ฉันสังเกตคุณวันนี้น่ะค่ะ

นิชคุณ: ครับ

Z_ZIN: ว่าแต่ คุณอยากแต่งงานตอนไหนหรอคะ? ตอนนี้ คุณอายุเท่าไหร่แล้วคะ?

นิชคุณ: ตอนนี้ ผมอายุ 25 แล้วครับ

Z_ZIN: 25 หรอคะ อืม…

นิชคุณ: ผมคิดว่า อยากจะแต่งงานซักตอนอายุ 32-33 ดีมั้ยครับ? อ่าหห์~ ผมไม่รู้จริงๆอ่ะครับ

Z_ZIN: แต่ถึงยังไง คุณก็อยากแต่งงานใช่มั้ยคะ?

นิชคุณ: ผมอยากแต่งงานนะครับ~

Z_ZIN: ถ้าเกิดว่าตอนนี้? สมมติคุณเจอผู้หญิงที่คุณรัก คุณอยากจะแต่งงานทันทีเลยมั้ยคะ?

นิชคุณ: ผมไม่อยากแต่งทันทีขนาดนั้นครับ ผมยังไม่พร้อมนะครับ

Z_ZIN: เพราะตอนนี้ เป็นเวลาแห่งการทำงานใช่มั้ยคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ

Z_ZIN: คุณสามารถแต่งงานแล้วก็ทำงานไปด้วยได้นะคะ แต่นั่นคงเป็นเรื่องหนักหนาของคนดังมากๆเลย

นิชคุณ: ใช่ครับ นั่นจะเป็นเรื่องใหญ่เลยครับ

Z_ZIN: อุดมคติของนิชคุณเป็นแบบไหนหรอคะ? ผู้หญิงแบบไหนที่คุณชอบ? ถ้าต้องเลือกแค่สิ่งเดียว คุณจะเลือกอะไรคะ?

นิชคุณ: อืมม…ผมชอบคนที่กตัญญูนะครับ เพราะว่าเมื่อคนนั้นรู้ว่าจะต้องรู้จักขอบคุณและดูแลคุณพ่อคุณแม่ยังไง อย่างอื่นก็จะดีด้วยครับ

Z_ZIN: คนที่รู้จักสำนึกบุญคุณและตอบแทนสินะคะ จนถึงตอนนี้ ฉันมีโอกาสได้เจอ นิชคุณ ประมาณ 10 ครั้ง มั้งคะ? แต่ไม่ว่ากี่ครั้งที่เจอกัน นิชคุณ ยังคงเป็นคนที่นึกถึงความคิดและจิตใจของคนอื่นเสมอเลย ฉันมองว่า นิชคุณ เป็นคนที่ไม่ได้มองเพียงแค่สิ่งเดียว แต่เป็นคนที่รู้ว่าต้องมองโดยรวมด้วย ทำไมคุณถึงเกิดความคิดนี้ขึ้นมาหรอคะ หรือ คุณแค่คิดเพราะตัวคุณเองเลย

นิชคุณ: ครับ ผมคิดแบบนั้น

Z_ZIN: คุณพ่อ คุณแม่ของคุณก็บอกคุณแบบนี้ใช่มั้ยคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ และตั้งแต่ผมเริ่มมาทำงานตรงนี้ ผมก็ให้ความสำคัญในเรื่องการคิดถึงคนอื่นมากขึ้นครับ

Z_ZIN: เพราะคุณมาทำงานตรงนี้ ทำไมคุณถึงให้ความสำคัญกับสิ่งนี้ล่ะคะ?

นิชคุณ: เพราะผมอยากจะขอบคุณทุกคนอยู่เสมอครับ

Z_ZIN: อื้มม คุณอยากขอบคุณทุกคน คุณรู้สึกสำนึกในสิ่งที่ทุกคนทำให้ใช่มั้ยคะ

นิชคุณ: ใช่ครับ เพราะเหมือนก่อนที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้น่ะครับ แรกเริ่ม ผมเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลย ผมร้องเพลงไม่ได้ เต้นไม่ได้ พูดเกาหลีก็ไม่เป็น แต่ผมก็ยังมีโอกาสมายืนอยู่ตรงจุดนี้ ผมรู้สึกขอบคุณและคิดถึงบุญคุณของทุกคนมากครับ นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผมคิดถึงคนอื่นก่อนและค่อยมาคิดถึงตัวเองทีหลังครับ ผมจะสร้างเครือข่ายที่มีแค่ คนดี เท่านั้นครับ

Z_ZIN: แล้วตอนนี้ เครือข่ายคนดีมีสมาชิกกี่คนแล้วคะ?

นิชคุณ: เครือข่ายของผมมีคนเยอะเลยนะครับ

Z_ZIN: คุณมีสมาชิกเครือข่ายคนดีเยอะเลยหรอคะ? (หัวเราะ)

นิชคุณ: แรกเริ่มก่อตั้งเลย ก็มีพวกเรา 2PM ทั้ง 6 คนครับ (หัวเราะ)

Z_ZIN: ถึงแม้ว่า ทุกคนจะไม่ได้เป็นแบบนี้ นักแสดงและคนดังหลายคนที่พอมีชื่อเสียงขึ้นมาก็จะเริ่มคิดถึงคนอื่นน้อยลง แต่ นิชคุณ ก็จะคิดถึงคนอื่นแบบนี้ตลอดไปใช่มั้ยคะ?

นิชคุณ: บางครั้งจิตใจเวลาเหนื่อยของผมก็จะคิดน่ะครับว่า ผมได้รับความรัก ความสนใจมากขนาดนี้ ทำไมผมต้องคิดถึงคนอื่นมากด้วยนะ ผมเคยถามตัวเองแบบนั้นครับ

Z_ZIN: คุณถามตัวเองหรอคะ?

นิชคุณ: ใช่ครับ ผมถาม และคำตอบที่ผมเชื่อเสมอก็คือ เพราะผมมีทุกวันนี้ได้ มายืนอยู่ตรงนี้ได้ก็เพราะทุกคน เมื่อผมคิดแบบนี้ ผมไม่สามารถตอบแทนทุกคนได้มากมายนัก แต่ผมจะคิดถึงความรู้สึกและจิตใจของคนอื่นให้มากครับ

Z_ZIN: นั่นเป็นเรื่องดีๆ ที่เราได้เรียนรู้จากผู้ชายที่ชื่อ นิชคุณ นะคะ

นิชคุณ: ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ^^

Scanned by: TAEC123 
Trans to Eng by: Jenniee & ssantibunny & letsnotbreakup@2ONEDAY.COM
Eng-Th Trans by: (N)AN (N)AN@2PM Thai Hottest

Cr : 2PM Thai Hottest



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น